Quality Cuisine
ฮิคาริเมนูจากทะเลน้ำลึก
ไม่ว่าจะไปไหนแทบทุกตรอกทุกซอยในกรุงเทพฯ จะต้องมีร้านอาหารญี่ปุ่น ตามห้างสรรพสินค้าต่าง ๆ ดูเหมือนจะมีร้านอาหารญี่ปุ่นมากกว่าร้านอาหารจากชาติ อื่น ๆแม้แต่ร้านอาหารไทยยังหาได้ยากเย็น
ไม่เหมือนร้านอาหารญี่ปุ่นที่เลี้ยวมุมไหนก็เจอ
บางร้านเกิดจากรสนิยมการกินของเจ้าของร้านที่ไปลิ้มลองของอร่อยที่ญี่ปุ่น แล้วอยากเปิดร้านให้คนไทยได้กินอาหารญี่ปุ่นบ้าง บางร้านก็ซื้อเฟรนไชส์มาจากญี่ปุ่นเลยทีเดียว หลาย ๆ ร้านมีหุ้นส่วนเป็นชาวญี่ปุ่นจำนวนไม่น้อยที่คิดว่าอาหารญี่ปุ่นดูจะขายดีในเมืองไทย จึงเปิดร้านเอง
ทำให้ทุกวันนี้คนไทย มีความต้องการอยากกินอาหารญี่ปุ่น รสชาติแบบต้นตำรับ หรือ รสชาติดัดแปลงให้เหมาะกับคนไทย จะเอาแบบวัตถุดิบชั้นเลิศหรู หรือ จะเอาแบบเบสิค ๆ ขอให้ออกมาเป็นอาหารญี่ปุ่นเป็นพอ มีให้เลือกหลากหลายซึ่งก็เป ็นตัวแปรของราคา ที่มีตั้งแต่ถูกจัด จนถึงขั้น แพงเว่อร์
หลายคนคงคุ้นเคยกับแบรนด์ Nippon Kai มาบ้าง แต่ครั้งนี้ได้ต่อยอดจากแนวร้านอาหารเดิมผสมผสานเข้ากับ Supermarket กลายเป็น Nippon Kai market & Restaurant ที่เพิ่มเมนูอาหารที่เรียกว่า ฮิคาริ (Hikarie) ที่เป็นเมนูของสด และ เครื่องปรุงชั้นเลิศจากญี่ปุ่น เข้ามาสร้างความแปลกใหม่ให้กับทางร้าน ส่วนในด้านวัตถุดิบทางร้านได้รวบรวมปลาจาก
มหาสมุทรทะเลน้ำลึก ไม่ว่าจะเป็น ปลาแซลมอน ปลาฮามาจิ ไข่กุ้ง ไข่ปลา หอยเม่น รวมถึง ชีส ผลไม้ตามฤดูกาลจากญี่ปุ่น ทางร้านได้คัดสรรปลาสดที่เต็มไปด้วยคุณภาพส่งตรงจาก
ตลาดTsukiji (ซึกิจิ)ซึ่งทางเชฟใหญ่ของร้านลงทุนบินไปเลือกมาขายที่ร้านด้วยตัวเองและจะมีการลงของใหม่ ๆทุกวันพฤหัสของสัปดาห์
Concept ของร้านได้แตกต่างออกไปจาก Nippon Kai แบบเดิม ๆ เพราะที่นี่ต้อนรับด้วยบรรยากาศอารมณ์Supermarket ขนาดย่อม ที่มีอาหารทะเลแช่แข็งส่งตรงจากตลาดปลาTsukiji (ซึกิจิ) ชีสจาก Hokkaido และ สาเกจากทั่วญี่ปุ่นมาให้เลือกซื้อ ซึ่งจะเชื่อมโยงกับอาหารแบบฮิคาริตรงที่เราสามารถเลือกวัตถุดิบที่ต้องการตั้งแต่ 1 ขีด ไปจนถึง 1 กิโลกรัมแล้วให้ทางเชฟปรุงอาหาร ออกมาให้
โดยจะเลือกจากเมนูอาหารที่มีอยู่แล้ว หรือ จะสั่งแบบที่เราชอบก็ได้และที่สำคัญทางร้าน ไม่คิดค่าปรุง
ด้านของราคามีตัวแปรหลาย ๆ อย่างที่เกี่ยวข้อง เช่น การ Import ค่าขนส่ง ค่าภาษี หรือ service ของทางร้าน รวมถึงแหล่งวัตถุดิบที่มาจากทะเลน้ำลึกเท่านั้น ที่ไม่สามารถหาได้ตาม
น่านน้ำในไทย ทำให้อาหารญี่ปุ่นมีราคาที่แพงอย่างสมเหตุสมผล จึงทำให้คนไทยยังอยากนิยมที่จะบริโภคอาหารญี่ปุ่นอย่างต่อเนื่อง ด้วยเหตุผลที่ว่า เป็นอาหารเพื่อสุขภาพ ไขมันต่ำ
เพราะเมนูส่วนใหญ่ไม่มีการใช้น้ำมัน รสชาติถูกปาก รวมถึงวัฒนธรรมสื่ออื่น ๆ ได้เข้ามา
ปัจจัยที่ทำให้อาหารญี่ปุ่น เป็นที่นิยมที่สำคัญก็คือ วัตถุดิบ ชาวญี่ปุ่นจะให้ความพิถีพิถัน มากในทุก ๆ เรื่อง แสดงให้เห็นถึงความเคารพในกฎของธรรมชาติและค่านิยมในการให้
เหมือนกับประโยค “อย่าทำลายรสธรรมชาติของวัตถุดิบ” ถือเป็นหัวใจสำคัญ ในวัฒนธรรมการกินของพวกเขา อย่างเช่น ซูชิ ที่แค่เอาปลามาวางบนข้าวปั้น โปะด้วยวาซาบิ รูปร่างหน้าตาของซูชิดูง่ายมาก จึงทำให้แต่ละองค์ประกอบต้องละเอียดหมดทุกขั้นตอนปลาต้องดีที่สุดต้องมาจากมหาสมุทรนี้เท่านั้น ข้าวใช้ชนิดใด หุงอย่างไร วาซาบิมาจากไหน ความน่าสนใจของเชฟจะพุ่งน้ำหนักไปที่การคัดสรรและการจัดการวัตถุดิบ ในขณะที่ประเทศอื่น ๆ ยังใช้เครื่องปรุงสารพัดมาปรุงแบบกลบเกลื่อนจนรับประทานได้
อาหารญี่ปุ่นยังคงได้รับความนิยมจากกลุ่มลูกค้าประจำและเฉพาะกลุ่มอย่างต่อเนื่อง จึงเกิดการแข่งขันกันสูง บางร้านได้จัดโปรโมชั่นลดราคากันกระหน่ำ กับฮิคาริเมนูของสด เช่น ซูชิ หรือ ซาซิมิปลาดิบ ชนิดต่าง ๆ
มีลูกค้าบางกลุ่มที่ยังคงมาตรฐานความสด ของอาหารญี่ปุ่นไว้โดยไม่สนใจในเรื่องโปรโมชั่น ลดราคามากนัก แต่ให้น้ำหนักไปในการเลือกกินเฉพาะร้านที่ Import โดยตรงมาจากแหล่ง
ต้นกำเนิดจริง ๆ มากกว่าที่จะเข้าร้านที่นำวัตถุดิบประปราย จากหลายที่มาประกอบอาหาร สาเหตุหลัก ๆ ที่ลูกค้ากลุ่มนี้เลือกที่จะเข้าร้านอาหารญี่ปุ่นที่นำเข้าวัตถุดิบโดยตรง เลยก็คือ ความรู้สึกที่ต้องการทานอาหารญี่ปุ่นอย่างแท้จริงได้กิน ปลาดิบ ที่ผ่านการเก็บรักษา แช่แข็งข้ามน้ำข้ามทะเลมาเป็นอย่างดี ผ่านกรรมวิธีการทำอย่างละเอียดเหมือนเป็นหัวใจหลักสำคัญ
ที่ต้องการรสธรรมชาติของวัตถุดิบ มากกว่า โปรโมชั่นราคาถูกแต่รสชาติเข้าไม่ถึงผู้บริโภค